กระบวนการผลิตเครื่องสำอาง - โรงงานผลิตสกินแคร์

การผลิตเครื่องสำอางไม่ใช่เรื่องซับซ้อน แต่การทำอย่างถูกต้องต้องอาศัยความแม่นยำ ทุกขั้นตอนต้องปฏิบัติตามแนวทางที่เคร่งครัด หากไม่เป็นเช่นนั้น ผลิตภัณฑ์ที่มีข้อบกพร่องอาจนำไปสู่การเรียกคืน

กระบวนการผลิตมี 4 ขั้นตอนหลัก โดยแต่ละขั้นตอนจะต้องปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด

ขั้นตอนที่ 1: การเตรียมวัสดุ

เครื่องสำอางมีวัตถุดิบที่แตกต่างกัน การทราบคุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมีจึงเป็นสิ่งสำคัญ เปอร์เซ็นต์และลำดับของการผสมที่ถูกต้อง

วัสดุบางชนิดต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษก่อนใช้งาน วัสดุบางชนิดต้องอุ่นในห้องทำความร้อน วัสดุบางชนิดต้องละลายในตัวทำละลายก่อนผสม จะต้องกำจัดไอออนในน้ำเพื่อขจัดสิ่งสกปรก ขั้นตอนเหล่านี้อาจใช้เวลานานแต่ก็จำเป็น การละเลยคำแนะนำอาจทำให้เกิดปัญหาในการผลิตได้

การวัดส่วนผสมให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ วิธีการและหน่วยการวัดต้องแม่นยำ

ขั้นตอนที่ 2: การผสมและการทำให้เป็นอิมัลชัน

ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นส่วนผสมที่เป็นเนื้อเดียวกันหรือเป็นอิมัลชัน การคนจะช่วยให้ส่วนผสมเข้ากันอย่างทั่วถึง

วัสดุที่ละลายน้ำได้และละลายน้ำมันได้จะต้องผสมแยกกัน ต่อมาจะผสมกันโดยผ่านกระบวนการอิมัลชัน ความร้อนสูง (60-75°C) และการกวน

เครื่องผสมมีบทบาทสำคัญ เครื่องสำอาง บางชนิดมีสารลดแรงตึงผิวซึ่งสามารถกักเก็บอากาศได้ เพื่อป้องกันฟองอากาศ ควรให้ระดับของเหลวอยู่ต่ำกว่าใบพัดสำหรับผสม ควรหลีกเลี่ยงการผสมมากเกินไป

ขั้นตอนที่ 3: การประมวลผลหลังการผสม

ก่อนการบรรจุส่วนผสมจะต้องผ่านขั้นตอนเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงความคงตัวและคุณภาพ

• การทำให้เป็นเนื้อเดียวกัน: จะทำให้เนื้ออิมัลชันละเอียดขึ้น ทำให้อนุภาคมีขนาดเล็กลงและสม่ำเสมอมากขึ้น ทำให้มีเสถียรภาพมากขึ้น

• การระบายออก: การกวนจะทำให้เกิดฟองอากาศขนาดเล็ก อุปกรณ์สูญญากาศจะกำจัดก๊าซที่ติดอยู่

• การกรอง: กำจัดสิ่งสกปรกที่เป็นของแข็งหรืออนุภาคที่ไม่ต้องการซึ่งอาจส่งผลต่อลักษณะที่ปรากฏของผลิตภัณฑ์

• การตุ๋น (การบ่ม): พักส่วนผสมไว้ 12-24 ชั่วโมง วิธีนี้จะช่วยให้ส่วนผสมคงตัวและฟองอากาศสามารถระเหยออกได้เอง

ขั้นตอนที่ 4: การบรรจุและบรรจุภัณฑ์

การบรรจุและบรรจุภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญ ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นอาจทำลายกระบวนการทั้งหมดได้

ปริมาณการบรรจุต้องแม่นยำ การปิดฝา การติดฉลาก และการบรรจุกล่องต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี คุณภาพของบรรจุภัณฑ์ มีความสำคัญพอๆ กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์